โคโลคาเซียหน้ากากฟาโรห์ โอ้โฮ ใบเท่ห์จัง เลือกให้ดี ไม่เช่นนั้นเสียของ Colocasia ‘Pharaoh’s Mask’

๐ หน้ากากฟาโรห์ บอนหน้ากากฟาโรห์ โคโลคาเซียหน้ากากฟาโรห์ ๐ ชื่อวิทยาศาสตร์ (Scientific name): Colocasia ‘Pharaoh’s Mask’ PPAF ชื่อสกุลมาจากภาษากรีกจากคำว่า “kolokasia” หมายถึง ต้น ที่มีรากเหมือนบัว Nelumbo nucifera ชื่อชนิดพันธุ์ ‘Pharaoh’s Mask’ ตั้งชื่อจากนักปรับปรุงพันธุ์ตามสัณฐานของใบที่ยกขึ้นและมีลวดลายคล้ายหน้ากากของฟาโรห์ ส่วน PPAF (plant patent applied for คือ ได้รับการคุ้มครองสิทธิบัตรพืช) เป็น” ๐ ชื่อสามัญ (Common Name): Pharaoh's mask elephant ear ๐ ชนิด (Type): ไม้เนื้ออ่อนมีอายอยู่ได้หลายปี (Herbaceous perennial) พืชหัว (Bulb) ๐ วงศ์ (Family): Araceae ๐ ถิ่นกำเนิด (Native Range) : ต้นแม่พันธุ์คือ Colocasia esculenta มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเขตร้อนชื้นของทวีปเอเชียตะวันออก ๐ ความสูงของทรงพุ่ม (Height) : 90-150 เซนติเมตร ๐ ความกว้างของทรงพุ่ม: 90-150 เซนติเมตร ๐ ระยะเวลาดอกบาน (Bloom Time): ออกดอกเป็นช่อเชิงลดมีกาบ (Spadix) โดยกาบหุ้มดอกมีสีเขียวถึงสีเหลืองอ่อนแกมเขียวอ่อน มีแกนกลางสีขาว อย่างไรก็ตามสำหรับการปลูกเลี้ยงในบ้านนั้นไม่ค่อยออกดอก ออกดอกเดือนกรกฎาคม ถึง สิงหาคม ๐ ความต้องการแสง (Sun): แดดเต็มวันหรือได้รับแดดบางส่วนของวัน ควรได้รับแสงอย่างน้อยสี่ถึง 6 ชั่วโมงต่อวัน ทั้งนี้หากอยากได้สีของใบให้มีสีดำชัดเจนสดใส ควรจะต้องมีคุณภาพของแสงแดดและได้รับแสงแดดพอสมควรตลอดทั้งวัน ๐ ความต้องการน้ำ (Water): ปานกลางจนถึงเปียกน้ำ หรือแช่ในน้ำ ๐ การดูแลรักษา (Maintenance): ต่ำ ควรมีการตัดแต่งใบล่างที่มีการทิ้งใบ รวมไปถึงการแยกหน่อหรือตัดไหล (Stolon) ไปปลูกเป็นต้นใหม่ ๐ การใช้งานที่แนะนำ (Suggested Use): ปลูกประดับในสวนชื้นที่มีแสงแดดเต็มวัน ปลูกเป็นไม้กระถางโดยปลูกลงในอ่างน้ำหรือปลูกลงในกระถางดินที่สามารถรักษาความชื้นได้ตลอดทั้งวัน เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่มีใบสีเขียวเข้มกระดูกใบหรือเส้นกลางใบสีเหลืองเด่นชัด สามารถปลูกร่วมกับต้นไม้อื่นที่มีสีสันของใบสดใสได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้แล้วสามารถเป็นปลูกเป็นพืชริมตลิ่งของสระน้ำแบบธรรมชาติ ซึ่งไม่มีการดาดผิวด้วยคอนกรีต โดยปลูกลงในดินริมตลิ่งโดยตรง ทั้งนี้การปลูกเพื่อประดับให้เกิดความสวยงามควรจะต้องปลูกในปริมาณมากพอสมควร หรือเป็นกอขนาดใหญ่ ๐ ใบไม้ (Leaf): มีลำต้นและเหง้าใต้ดินช่วยในการแตกกอออกไปด้านข้างได้เป็นอย่างดี ก้านใบอวบน้ำมีสีแดงอมม่วง มีใบเดี่ยวรูปหัวใจ ขอบใบหยักเป็นคลื่นเล็กน้อย ปลายใบมน เส้นใบชัดยกนูนมีสีแดงอมม่วง ใบมีสีเขียวอ่อน เนื้อใบยกขึ้นเป็นสันนูน ขอบใบงุ้มลง โดยเส้นกลางใบ (นิยมเรียก “กระดูกใบ”) และการยกนูนขึ้นของใบนี้จึงได้ชื่อชนิดพันธุ์ ‘Pharaoh’s Mask’ คล้ายกับหน้ากากของฟาโรห์จากอียิปต์ มีปลายใบชี้ลงดิน ซึ่งเป็นลักษณะที่แตกต่างอย่างเด่นชัดกับต้นไม้ในสกุล Colocasia ๐ การเพาะปลูก (Culture) บอนหน้ากากฟาโรห์ สามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงโดยในธรรมชาติต้นแม่พันธุ์เกิดขึ้นในพื้นที่ชื้นแฉะซึ่งมีการทับถมกันของเศษซากพืชซากสัตว์จำนวนมาก จึงทำให้เจริญเติบโตได้ดินได้ดีในพื้นที่อันอุดมไปด้วยอินทรีย์วัตถุ จึงสามารถเจริญเติบโตได้ในวัสดุปลูกที่เป็นทั้งดินเหนียวซึ่งปลูกในทำนองเดียวกันกับบัวต่างๆ โดยมีการขังน้ำไว้ในอ่างน้ำนั้นตลอดทั้งวัน โดยผิวน้ำควรขังน้ำไว้อย่างน้อย 15 เซนติเมตร รวมไปถึงการปลูกในกระถางหรือแปลงปลูกซึ่งมีดินปลูกที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอินทรีย์วัตถุมีความสามารถในการ รักษาความชื้นและระบายน้ำได้ดี ขยายพันธุ์ได้ด้วยการแบ่งแยกหน่อ และการตัดส่วนของลำต้น หรือไหล (Stolon) ไปปักชำ ๐ ปัญหา (Problems) ไม่มีโรคและแมลงศัตรูทำลายจนทำให้เป็นอันตรายต่อการชงักการเจริญเติบโตอย่างรุนแรง ไปก็ตามอาจจะพบการเข้าทำลายของแมลงบางชนิด อาทิ เพลี้ย แมลงหวี่ขาว ไรแดง หนอนผีเสื้อ และแมลงปากัดต่าง ๆ เช่น ตั๊กแตน เป็นต้น รวมไปถึงเชื้อโรคที่สามารถเข้าทำลาย เช่น ไวรัสโมเสค สำหรับการปลูกในดินที่ชื้นแฉะเกินไปอาจจะเกิดปัญหารากเน่าได้

Category